หนังนอกกระแส
ภาพยนตร์อิสระ หรือ ภาพยนตร์นอก
กระแส Independence Film ที่เรียกกันว่าหนังอินดี้
คือภาพยนตร์ประเภทหนึ่งที่มีรูปแบบการนำเสนอแตกต่างไปจากกรอบของภาพยนตร์ทั่วไป
อาจจะเป็นที่เนื้อเรื่องหรือการดำเนินเรื่อง
รวมทั้งอาจจะเป็นภาพยนตร์ที่มีทุนสร้างน้อยเมื่อเทียบกับภาพยนตร์ทั่วไป
โดยปกติ ภาพยนตร์ในแนวนอกกระแสนี้จะไม่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ตามปกติ
ด้วยเหตุในเรื่องของธุรกิจ
เป็นเพราะไม่ได้เป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปเช่นภาพยนตร์ทั่วไป แต่ในปัจจุบัน
มีภาพยนตร์แนวอิสระหลายเรื่อง
ทั้งภาพยนตร์ไทยและภาพยนตร์ต่างประเทศนิยมใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงมาแสดงนำ
เพื่อดึงดูดความน่าดูให้มากขึ้นด้วย สำหรับในประเทศไทยมีโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะคือลิโด้
โรงภาพยนตร์ลิโด้
อ้างอิงข้อมูล : wikipedier
***************************************************
สำหรับหนังนอกกระแส
ในปัจจุบัน
ได้พบว่าได้มีความนิยมกันมากขึ้น แต่กระนั้นก็ยังมีมุมๆนึงของนักวิจารณ์ที่มองว่าหนังประเภทนี้ไม่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคเพราะมันมีเนื้อหาที่
เหมาะสำหรับทำมาเพื่อกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น
สำหรับหนังบางเรื่องที่สะท้อนสังคมแบบแรงจนมีกลุ่มเคลื่อนไหวจนต้องยุตติการฉายหนังบางเรื่องไป
ส่วนทางด้าน การให้สัมภาษณ์ของอาจารย์ที่ มหาวิทยาลับรังสิต ก็ได้บอกว่า หนังประเภทนี้ทำมาเพื่อความ อยากทำของคนที่อยากทำโดยหนังไม่มีต้นทุน หรือที่เรียกกันอีกแบบก็คือหนังใต้ดิน บางเรื่องก็เจาะกลุ่มเป้าหมายโดยการ นำเสนอเรื่องต่างๆ ของสังคนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ้งจากการให้สัมภาษาณ์ก็ได้ความหมายว่า หนังประเภทนี้ทำเพื่อ ความอยากที่จะทำของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น...
******************************************************************
*****************************************************************
ส่วนสำหรับใครที่ไม่รู้จักว่าหนังนอกกระแสว่ามันคืออะไร
ผมก็มีตัวอย่างหนัง 5 เรื่องที่ ถ้าดูละรับรองว่าจะต้องติดใจแน่นอน
1.THE BOY IN THE STRIPED PAJAMAS
สำหรับหนัง THE BOY IN THE STRIPED
PAJAMAS
เป็นหนังที่พูดได้เลยว่าร้อยทั้งร้อยที่ดูก็จะเสียน้ำตากับหนังเรื่องนี้
เพราะว่าThe Boy in the striped pajamas คือภาพยนตร์ที่สะท้อนความโหดร้ายของสงครามครั้งนี้ผ่านมุมมองของเด็กที่ไม่เข้าใจกับสงครามรอบตัวที่บรรดาผู้ใหญ่ก่อไว้ให้และไม่ว่าจะเป็นเด็กชนชาติใดเยอรมัน
หรือยิว
พวกเขาก็เกิดมาพร้อมกับความบริสุทธิ์ที่ไร้การปรุงแต่งที่พบกันเมื่อใดก็สามารถสร้างมิตรภาพได้เมื่อนั้น
แต่วันเวลาที่ผ่าน ประสบการณ์ที่เติบโต วันเวลาที่ดีก็เริ่มหมดไป
*******************************************************************
2.Love Rosie
เรื่อง Love Rosie เป็นหนังรอมคอม
(โรแมนติกคอเมอดี้) หวานๆ แต่ไม่ถึงกับเลี่ยน
ผู้กำกับเล่าเรื่องจากหนังสือต้นฉบับออกมาได้ดี
เล่นกับโชคชะตาและการคลาดกันไปมาของตัวละครได้อย่างมีชั้นเชิง
โดยมีมุขตลกแทรกอยู่ตามรายทาง ระยะเวลาสิบปีของภาพยนตร์ถูกทำออกมาได้กระชับ เป็น One Day ในพาร์ทที่สว่างกว่า
แถมยังมีจุดเด่นคือการให้ความสำคัญในรักครั้งแรกที่ต่อยอดออกมาเป็นรักแท้ แม้จะเพ้อฝันไปบ้างก็ยังดูสนุก
************************************************************
3. Liberal Arts
Liberal Arts หนังคือโรแมนติกคอมเมดี้ว่าด้วยเรื่องของ
เจสซี่ หนุ่มใหญ่วัยสามสิบกว่า
ที่เผชิญหน้ากับสภาพความเป็นจริงว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในรั้วมหาวิทยาลัย นั้นผ่านมานานแล้ว
เขาตัดสินใจกลับไปรับจ๊อบพิเศษเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเก่า แต่ที่นั่นเองเขาก็ได้พบกับ
ซิบบี้ (เอลิซาเบธ โอลเซ่น จาก จาก Martha Marcy May Marlene) นักศึกษาสาววัย 19 ที่อัดแน่นไปด้วยความกระตือรือล้นและทัศนคติที่โตเกินวัย
เจสซี่ ตกหลุมรักเธอทันที แต่เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งภายในจิตใจ รวมถึงสถานะระหว่างเขากับเธอด้วยกัน
************************************************************
4. Safe Haven
Safe Haven คือภาพยนตร์โรแมติกสุดซึ้งที่ สร้างจากนิยายขายดีอันดับ
1 บนชาร์ตนิวยอร์กไทมส์ลำดับล่าสุดของ นิโคลัส สปาร์คส์?
เรื่องราวของ คน 2 คน
ที่เคยรู้สึกว่าจากนี้ไปจะไม่รักใครอีกแล้ว มาเจอกัน คนหนึ่งเจ็บเพราะรักคนผิด อีกคนหนึ่งล้าเพราะต้องเสียคนที่รักมากไป
โดย 2 นักแสดงผู้มารับบทนำคือ จอช ดูฮาเมล
พระเอกหนุ่มสุดฮ็อตจากTransformers (ทรานส์ฟอร์เมอร์) ?ทั้งสามภาค รวมถึงหนังโรแมนติก-คอมเมดี้อย่าง
When in Rome (เวน อิน โรม) และ New Year?s Eve
สำหรับเรื่องย่อ Safe Haven เล่าเรื่องราวของ เคธี่ ผู้หญิงที่เดินทางมาที่เมืองเล็กๆการเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเธอก็เริ่มเปิดใจกับผู้คนรอบตัว
ซึ่งก็รวมถึงพระเอกพ่อม่ายลูกสองที่เปิดร้านเล็กๆในเมือง
ตัวอย่าง
*************************************************************
5. 4 Months, 3 Weeks and
2 Days
4 Months, 3 Weeks and 2 Days เป็นหนังจากภาคพื้นยุโรปที่โด่งดังมากที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบปีที่ผ่านมา
หนังมีชื่อติดโผสถาบันการประกวดต่างๆ แทบจะทุกสำนัก นับตั้งแต่เทศกาลหนังเมืองคานส์ยันลูกโลกทองคำ
จะขาดก็แต่ออสการ์ ที่หนังไม่แม้แต่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล (สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม)
ท่ามกลางความกังขาของหลายคนว่า “ทำไม?”
ตัวอย่างหนัง
******************************************************************
***หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย**
***บล็อกนี้ทำเพื่อการศึกษาสำหรับการเรียนรู้เท่านั้นไม่มีจุดประสงค์ใดที่จะมีการละเมิดลิขสิทธฺ์แต่อย่างใด***
ภาพยนตร์อิสระ หรือ ภาพยนตร์นอก
กระแส Independence Film ที่เรียกกันว่าหนังอินดี้
คือภาพยนตร์ประเภทหนึ่งที่มีรูปแบบการนำเสนอแตกต่างไปจากกรอบของภาพยนตร์ทั่วไป
อาจจะเป็นที่เนื้อเรื่องหรือการดำเนินเรื่อง
รวมทั้งอาจจะเป็นภาพยนตร์ที่มีทุนสร้างน้อยเมื่อเทียบกับภาพยนตร์ทั่วไป
โดยปกติ ภาพยนตร์ในแนวนอกกระแสนี้จะไม่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ตามปกติ
ด้วยเหตุในเรื่องของธุรกิจ
เป็นเพราะไม่ได้เป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปเช่นภาพยนตร์ทั่วไป แต่ในปัจจุบัน
มีภาพยนตร์แนวอิสระหลายเรื่อง
ทั้งภาพยนตร์ไทยและภาพยนตร์ต่างประเทศนิยมใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงมาแสดงนำ
เพื่อดึงดูดความน่าดูให้มากขึ้นด้วย สำหรับในประเทศไทยมีโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะคือลิโด้
โรงภาพยนตร์ลิโด้
อ้างอิงข้อมูล : wikipedier
***************************************************
สำหรับหนังนอกกระแส
ในปัจจุบัน
ได้พบว่าได้มีความนิยมกันมากขึ้น แต่กระนั้นก็ยังมีมุมๆนึงของนักวิจารณ์ที่มองว่าหนังประเภทนี้ไม่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคเพราะมันมีเนื้อหาที่
เหมาะสำหรับทำมาเพื่อกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น
สำหรับหนังบางเรื่องที่สะท้อนสังคมแบบแรงจนมีกลุ่มเคลื่อนไหวจนต้องยุตติการฉายหนังบางเรื่องไป
ส่วนทางด้าน การให้สัมภาษณ์ของอาจารย์ที่ มหาวิทยาลับรังสิต ก็ได้บอกว่า หนังประเภทนี้ทำมาเพื่อความ อยากทำของคนที่อยากทำโดยหนังไม่มีต้นทุน หรือที่เรียกกันอีกแบบก็คือหนังใต้ดิน บางเรื่องก็เจาะกลุ่มเป้าหมายโดยการ นำเสนอเรื่องต่างๆ ของสังคนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ้งจากการให้สัมภาษาณ์ก็ได้ความหมายว่า หนังประเภทนี้ทำเพื่อ ความอยากที่จะทำของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น...
******************************************************************
*****************************************************************
ส่วนสำหรับใครที่ไม่รู้จักว่าหนังนอกกระแสว่ามันคืออะไร
ผมก็มีตัวอย่างหนัง 5 เรื่องที่ ถ้าดูละรับรองว่าจะต้องติดใจแน่นอน
1.THE BOY IN THE STRIPED PAJAMAS
สำหรับหนัง THE BOY IN THE STRIPED
PAJAMAS
เป็นหนังที่พูดได้เลยว่าร้อยทั้งร้อยที่ดูก็จะเสียน้ำตากับหนังเรื่องนี้
เพราะว่าThe Boy in the striped pajamas คือภาพยนตร์ที่สะท้อนความโหดร้ายของสงครามครั้งนี้ผ่านมุมมองของเด็กที่ไม่เข้าใจกับสงครามรอบตัวที่บรรดาผู้ใหญ่ก่อไว้ให้และไม่ว่าจะเป็นเด็กชนชาติใดเยอรมัน
หรือยิว
พวกเขาก็เกิดมาพร้อมกับความบริสุทธิ์ที่ไร้การปรุงแต่งที่พบกันเมื่อใดก็สามารถสร้างมิตรภาพได้เมื่อนั้น
แต่วันเวลาที่ผ่าน ประสบการณ์ที่เติบโต วันเวลาที่ดีก็เริ่มหมดไป
*******************************************************************
2.Love Rosie
เรื่อง Love Rosie เป็นหนังรอมคอม
(โรแมนติกคอเมอดี้) หวานๆ แต่ไม่ถึงกับเลี่ยน
ผู้กำกับเล่าเรื่องจากหนังสือต้นฉบับออกมาได้ดี
เล่นกับโชคชะตาและการคลาดกันไปมาของตัวละครได้อย่างมีชั้นเชิง
โดยมีมุขตลกแทรกอยู่ตามรายทาง ระยะเวลาสิบปีของภาพยนตร์ถูกทำออกมาได้กระชับ เป็น One Day ในพาร์ทที่สว่างกว่า
แถมยังมีจุดเด่นคือการให้ความสำคัญในรักครั้งแรกที่ต่อยอดออกมาเป็นรักแท้ แม้จะเพ้อฝันไปบ้างก็ยังดูสนุก
************************************************************
3. Liberal Arts
Liberal Arts หนังคือโรแมนติกคอมเมดี้ว่าด้วยเรื่องของ
เจสซี่ หนุ่มใหญ่วัยสามสิบกว่า
ที่เผชิญหน้ากับสภาพความเป็นจริงว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในรั้วมหาวิทยาลัย นั้นผ่านมานานแล้ว
เขาตัดสินใจกลับไปรับจ๊อบพิเศษเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเก่า แต่ที่นั่นเองเขาก็ได้พบกับ
ซิบบี้ (เอลิซาเบธ โอลเซ่น จาก จาก Martha Marcy May Marlene) นักศึกษาสาววัย 19 ที่อัดแน่นไปด้วยความกระตือรือล้นและทัศนคติที่โตเกินวัย
เจสซี่ ตกหลุมรักเธอทันที แต่เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งภายในจิตใจ รวมถึงสถานะระหว่างเขากับเธอด้วยกัน
************************************************************
4. Safe Haven
Safe Haven คือภาพยนตร์โรแมติกสุดซึ้งที่ สร้างจากนิยายขายดีอันดับ
1 บนชาร์ตนิวยอร์กไทมส์ลำดับล่าสุดของ นิโคลัส สปาร์คส์?
เรื่องราวของ คน 2 คน
ที่เคยรู้สึกว่าจากนี้ไปจะไม่รักใครอีกแล้ว มาเจอกัน คนหนึ่งเจ็บเพราะรักคนผิด อีกคนหนึ่งล้าเพราะต้องเสียคนที่รักมากไป
โดย 2 นักแสดงผู้มารับบทนำคือ จอช ดูฮาเมล
พระเอกหนุ่มสุดฮ็อตจากTransformers (ทรานส์ฟอร์เมอร์) ?ทั้งสามภาค รวมถึงหนังโรแมนติก-คอมเมดี้อย่าง
When in Rome (เวน อิน โรม) และ New Year?s Eve
สำหรับเรื่องย่อ Safe Haven เล่าเรื่องราวของ เคธี่ ผู้หญิงที่เดินทางมาที่เมืองเล็กๆการเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชนทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเธอก็เริ่มเปิดใจกับผู้คนรอบตัว
ซึ่งก็รวมถึงพระเอกพ่อม่ายลูกสองที่เปิดร้านเล็กๆในเมือง
ตัวอย่าง
*************************************************************
5. 4 Months, 3 Weeks and
2 Days
4 Months, 3 Weeks and 2 Days เป็นหนังจากภาคพื้นยุโรปที่โด่งดังมากที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบปีที่ผ่านมา
หนังมีชื่อติดโผสถาบันการประกวดต่างๆ แทบจะทุกสำนัก นับตั้งแต่เทศกาลหนังเมืองคานส์ยันลูกโลกทองคำ
จะขาดก็แต่ออสการ์ ที่หนังไม่แม้แต่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล (สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม)
ท่ามกลางความกังขาของหลายคนว่า “ทำไม?”
ตัวอย่างหนัง
******************************************************************
***หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย**
***บล็อกนี้ทำเพื่อการศึกษาสำหรับการเรียนรู้เท่านั้นไม่มีจุดประสงค์ใดที่จะมีการละเมิดลิขสิทธฺ์แต่อย่างใด***